Browse Category by แนวทาง SEO อื่นๆ
แนวทาง SEO อื่นๆ

ทำอันดับเว็บไซต์ให้ติดทนนาน

ติดทนนาน

ทุกคนที่เลือกทำการตลาดไซด์เอสอีโอนั้น ย่อมอยากให้เว็บไซต์ของตัวเองติดอันดับแรกๆของทุกคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง โดยอยู่ให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ เพื่อให้มียอดขายเข้ามาต่อเนื่องถล่มทลาย แต่ในหลักความเป็นจริงนั้น ส่วนมากเราจะต้องพบกับการสวิงขึ้นลงของอันดับเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ก็เกิดการสวิงได้ทั้งนั้น อะไรที่จะเป็นตัวบอกเราว่าเว็บไซต์ของเราถึงจะมีอันดับติดทนนานเหมือนกับเว็บไซต์ขนาดใหญ่บางเว็บ ที่ต่อให้เว็บเล็กวิ่งขึ้นลงมากแค่ไหนก็ไม่กระทบกับเว็บใหญ่แม้แต่นิดเดียว อะไรคือปัจจัยที่ทำให้เว็บเรานั้นสามารถคงที่ในเรื่องของ SEO อยู่ได้
พฤติกรรมผู้ใช้ ตัวแปรที่สำคัญ

สิ่งเดียวที่มีความสำคัญมากที่สุดคือ การตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ คำว่าตอบสนองความต้องการของผู้ใช้นั้นแน่นอนว่าเราจะทำเว็บไซต์แต่ SEO อย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะทุกคนหากว่าทำทำ SEO อย่างเดียวกัน มันก็จะมีอัตราการตอบสนองในรูปแบบเดียวกัน คือมาจากการค้นหาเป็นหลัก แต่การวัดประสิทธิภาพเว็บไซต์ที่แท้จริงควรจะมีการเข้าชมจากแหล่งที่มาที่หลากหลาย อาจจะมาจากโซเชียลมีเดียส่วนหนึ่ง อาจจะมาจากตามคลิปใน YouTube ส่วนหนึ่ง หรืออาจจะมีการเข้าพิมพ์แบบโดยตรงไปส่วนหนึ่ง

การเข้าชมเว็บ

และการเช้าชมเว็บจาก IP ซ้ำ ๆเข้าเว็บเดิมๆ ก็อาจจะมีผลด้วยเช่นเดียวกัน เพราะนั่นหมายถึงพฤติกรรมผู้ใช้คนเดิมมีการเข้าเว็บเดิมซ้ำบ่อยๆ แปลว่าเว็บไซต์ที่เข้านั้นสามารถตอบโจทย์ต่อความต้องการของผู้ใช้ได้นั่นเอง แต่คงจะไม่ได้มีการเพิ่มอันดับหากเพียงวัดจากไอพีเดียว คงจะต้องไปหลาย 1000 ไอพีมากกว่า หากวัดค่าแค่ IP ซ้ำเพียงไอพีเดียว เราก็ทำได้เอง เพียงแค่กดเข้าเว็บเองแบบนั้นมันก็คงไม่ถูกสักเท่าไหร่ เว็บที่จะติดทนนานคือเว็บที่มีแหล่งคนเข้ามาจากหลายที่ มีพฤติกรรมผู้ใช้เข้าเว็บคงอยู่ตลอด มีการกลับเข้ามาเยี่ยมชมอยู่เป็นประจำ นี่คือประเด็นหลักในการทำ SEO ให้เว็บไซต์มีอันดับยั่งยืน

แนวทาง SEO อื่นๆ

พิมพ์ผิด แต่ดันขึ้นถูกเว็บไซต์

ค้นหา seo

เคสสุดประหลาดมากที่น้อยคนนักจะรู้จักและสังเกตถึงข้อนี้ ส่วนมากนักทำ seo จะอ่านหนังสือหาความรู้ในแพตเทิร์นเดียวกัน แต่ขาดประสบการณ์การทดสอบ ทดลอง สังเกต ของเหล่านี้จะขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคลว่ามีความสามารถและความใส่ใจมากแค่ไหน มีอยู่ข้อหนึ่งที่น่าสนใจมากนั่นก็คือเวลาที่เราพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ผิด อาจจะพิมพ์เป็นภาษาไทย แต่ชื่อเว็บไซต์แท้จริงนั้นเป็นภาษาอังกฤษ เวลาเราพิมพ์ Search ใน Google ไหงทำไมมันถึงจัดอันดับเว็บไซต์ปลายทางที่เราต้องการได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ทั้งที่ไม่ได้มีเนื้อหาที่สอดคล้องกับคำที่เราพิมพ์ค้นหาผ่าน Google เลยแม้แต่น้อย เนื่องจากเราเป็นการพิมพ์ผิดมันจึงเป็นตัวอักษรมั่วซั่วยึกยือ

กุญแจ SEO แต่ละดอก มาจากการทดลองและสังเกต

สังเกต

ทำไมล่ะ Google ถึงได้จัดอันดับได้อย่างถูกต้อง ข้อนี้ยังคงเป็นปริศนา แต่มันเป็นตัวบ่งบอกได้ชัดเจนว่าคะแนนปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการจัดอันดับเว็บไซต์ นั้นคือหากว่าเรามีการพิมพ์ผิดคำว่าอะไร แล้วผู้ใช้ได้มีการเข้าไปยังเว็บไปทางไหนในลำดับต่อไป Google จะให้คะแนนเว็บนั้นกับเว็บไซต์ปลายทางมากขึ้น มันเป็นคะแนนพิเศษที่ SEO ส่วนมากสายการทำลิงค์จะไม่สามารถทำได้เพราะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของผู้ชายล้วนล้วน 100%

สิ่งที่เราทำได้มีเพียงพยายามดันอันดับในคีย์หลักและคีรองที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันให้ได้มากที่สุด เพื่อเพิ่มโอกาสในการดันเว็บไซต์ของเราไปอยู่อันดับแรกตามคิย์เวิร์ด แล้วเมื่อมีคนคลิกมายังเว็บเรามนคีย์รองเหล่านั้น มันก็จะเริ่มส่งผลมายังคำค้นหาหลักที่เกี่ยวข้อง และหากพฤติกรรมผู้ใช้มีการคลิกมายังเว็บไซต์ของเราในคำค้นหากลักที่เกี่ยวข้องมากยิ่งขึ้น Google ก็จะให้คะแนนของเรามากขึ้นไปด้วยเช่นเดียวกัน มันเข้ากรณีเดียวกับเคสพิมพ์ผิดแต่ดันขึ้นเว็บถูกนั่นเอง ของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้พิสูจน์ดูด้วยการลงมือทำ

แนวทาง SEO อื่นๆ

รู้จักลูกค้า สร้างเนื้อหาและทำ SEO ได้ตรงใจ

เนื้อหาเว็บ ในสายตาของลูกค้า

คนที่ทำธุรกิจส่วนตัวหรือค้าขายเข้าใจดีกว่าการแข่งขันรุนแรงทำให้เราต้องทำความเข้าใจลูกค้ามากขึ้น ลูกค้าเป้าหมายของเราคือใคร เมื่อรู้ว่าเราต้องการขายสินค้าให้ลูกค้ากลุ่มไหนแล้ว การทำ SEO โดยใช้คีย์เวิร์ดใส่ในบทความให้ลูกค้าอ่านหรือค้นหาเชื่อมโยงจากกูเกิลจะกลายเป็นเรื่องง่ายและสามารถเอาชนะใจลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น พยายามคิดในมุมมองของลูกค้าว่ามีความต้องการอย่างไร สินค้าและบริการของเราตอบโจทย์ความต้องการได้ดีพอหรือยัง ถ้าคำตอบคือไม่ คุณต้องพร้อมเสนอทางเลือกใหม่ๆ อีกหลายแง่มุมจนกว่าลูกค้าจะได้ตัวเลือกที่พอใจที่สุด

1. สร้างความประทับใจให้ลูกค้า

เพราะลูกค้าแต่ละกลุ่มมีความพึงพอใจแตกต่างกัน เราต้องดูว่าจะใช้วิธีการทำ SEO ในบทความอย่างไรถึงจะดึงดูดความสนใจได้ดี เช่น เลือกคีย์เวิร์ดแบบเฉพาะเจาะจงเพื่อดึงลูกค้าเข้ามาหาข้อมูลได้ตรงจุด เนื้อหาบทความไม่ยาวเกินไป มีทั้งสาระความรู้ ถ้อยคำสละสลวยอ่านแล้วเพลิดเพลิน ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์กับผู้อ่าน รู้สึกว่าอ่านแล้วคุ้มค่า โดยไม่จำเป็นต้องเสนอขายสินค้าในทุกบทความ แต่สร้างความประทับใจเพิ่มโอกาสการทำยอดขายให้สูงขึ้นได้

2. เนื้อหาสร้างสรรค์น่าสนใจ

ดูความเหมาะสมของบทความทั้งเรื่องลีลาการเขียน เนื้อหาที่หลากหลาย สะกดคำถูกต้องทำให้บทความขาดความน่าเชื่อถือ เว้นระยะสวยงาม ใส่รูปภาพประกอบด้วย หรือการทำกราฟิกเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจและเห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้ผู้อ่านพอใจและแชร์ออกไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การโปรโมทสินค้าออนไลน์เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและเป็นที่รู้จักกระจายออกไปในวงกว้าง

Content

3. ดูการตอบสนองจากลูกค้า

การใช้งานอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียต่างๆ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการติดตามการสนองตอบของลูกค้าง่ายและสะดวกรวดเร็ว สามารถวางแผนรองรับได้ดีขึ้น ปรับปรุงเนื้อหาสร้างความแปลกใหม่และค้นหาสิ่งที่ลูกค้าสนใจต้องการจะอ่านมาส่งเสริมโอกาสการขาย ช่วยวางกลยุทธ์การตลาดแม่นยำมากขึ้น

4. อัพเดทคีย์เวิร์ดให้ลูกค้าเข้าถึงง่าย

ธุรกิจการค้าแทบทุกประเภทก้าวเข้าสู่โลกออนไลน์ การทำเว็บไซต์จึงเป็นองค์ประกอบสำคัญในการโปรโมทสินค้าและตามเทรนด์ใหม่ๆ ให้ทัน พยายามติดตามศัพท์คีย์เวิร์ดใหม่ๆ ที่ใช้กันในยุคปัจจุบัน หรือถ้อยคำที่ลูกค้าเชื่อมโยงเข้าเว็บของเราได้ง่าย ขณะเดียวกันก็เป็นคีย์เวิร์ดที่เข้าถึงลูกค้าจำนวนมากขึ้น โดยประเมินจากกระแสสังคมและความต้องการของตลาด จากที่เคยใช้คีย์เวิร์ด “รองเท้ากีฬา” เปลี่ยนมาเป็น “รองเท้ากีฬา มือหนึ่ง ราคาถูก” ครอบคลุมความต้องการลูกค้าซึ่งเป็นเป้าหมายของเราโดยตรง

การทำ SEO เพื่อเข้าถึงลูกค้าจำนวนมาก ดึงดูดเข้ามาเยี่ยมชมและติดตามอย่างสม่ำเสมอ นับเป็นอีกวิธีที่ช่วยปรับอันดับการค้นหาในกูเกิลให้อยู่ในหน้าแรกๆ ซึ่งหมายความว่าสินค้าและบริการของเราต้องตอบโจทย์ลูกค้าได้ดี ส่วนบทความจะให้ข้อมูลความรู้ที่มีประโยชน์และตรงความต้องการ หากมีองค์ประกอบเหล่านี้ครบถ้วน รับประกันความมีประสิทธิภาพซึ่งจะส่งเสริมการตัดสินใจซื้อของลูกค้าให้เร็วขึ้นได้

แนวทาง SEO อื่นๆ

การค้นหาบน Google ด้วยการวางรูป

การค้นหาบน Google ด้วยการวางรูป

เป็นเรื่องน่าสนใจมากสุดสุดอีกหนึ่งเรื่อง แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีกระแสการค้นหาด้วยรูปการซักเท่าไหร่และผู้เขียนเองก็ไม่รู้ว่าวิธีการค้นหาผ่านรูปนั้นมีมายาวนานแล้วหรือไม่ แต่เชื่อว่าผู้ที่เข้ามาอ่านหลายคนก็ยังไม่รู้เรื่องนี้กันอย่างแน่นอน คงมีคนรู้ไม่ถึง 10% เสียด้วยซ้ำ วิธีการค้นหาผ่านรูปนั้นมันคืออะไร ใช้การพิมพ์ข้อความแล้วเลือกไปที่โหมดรูปภาพหรือเปล่า ? มันก็ไม่ใช่อยู่แล้ว เพราะถ้าใช่คงไม่หยิบมาเป็นประเด็นโพสต์บทความหรอก เดี๋ยวจะโดนผู้อ่านด่าเอาได้

เพียงแค่ลากรูปไปวาง

วิธีการค้นหาด้วยรูป ที่ผู้เขียนได้ไปเปิดทดสอบแล้วเจอมากับตัวนั้นก็คือการที่เราเลือกรูปภาพจากจากหน้าเว็บของ Google หลักในส่วนของรูป แล้วโยนมันลงไปที่แทบค้นหาบน เว็บไซต์ Google มันจะทำการค้นหาข้อมูลที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวกับลูกของเราให้อย่างอัตโนมัติ แล้วมันรู้ได้ยังไงล่ะว่ารูปของเราเกี่ยวกับอะไร ถือเป็นสิ่งแปลกใหม่ ผู้เขียนเองลองอยู่ไม่กี่ครั้งก็ยังจับประเด็นไม่ถูกเหมือนกัน ว่าสรุปแล้ว อันกอริทึมตัวล่าสุดมาได้ใช้ระบบการจัดการอย่างไรมีอะไรมาเป็นตัวช่วยคำนวณ เพราะการดึงรูปจากฐานข้อมูลที่ Google มีบนเว็บไซต์ หากรูปไม่ใส่ tag alt มันจะค้นจากอะไร title อย่างเดียวคงไม่เหมาะแน่ มันจะเอาอะไรมาเป็นตัววัดว่ารูปนี้มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับอะไร

ถึงแม้ว่าปัจจุบันฟังก์ชั่นนี้อาจจะยังไม่ได้รับความสนใจสักเท่าไหร่ เพราะการค้นหาข้อมูลนี้ยังคงมีความผิดพลาดเยอะอยู่ แต่ในอนาคตหากอัลกอริทึ่มสามารถอ่านรูปภาพของเราแล้วตีความออกมาได้ แล้วแสดงผลข้อมูลการค้นหาได้อย่างถูกต้องแม่นยำ เราก็คงเป็นเรื่องที่สนุกกันอีกครั้งทีเดียว เพียงแค่ลากรูปไปวาง ก็พบกับข้อมูลการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับลูกของเราแล้ว หากว่ามีการอัพเดทหรือมีการพัฒนาในส่วนนี้จนมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ผู้เขียนก็จะไม่พลาดที่จะนำมาฝากฝากกันอีกครั้ง รับรองได้

แนวทาง SEO อื่นๆ

เหตุผลทำไมคุณควร Outsource เพื่อ SEO

DIY SEO

การศึกษาล่าสุดที่ออกมาต้นปี 2018 โดย ได้เปิดเผยว่ามีเพียง 3% ของธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านการจ้างงานหรือหน่วยงานภายนอกเพื่อทำตลาดสำหรับธุรกิจของตน ผู้เขียนรายงานสรุปได้ว่าธุรกิจขนาดเล็กและท้องถิ่นกำลังได้รับผลที่น่าผิดหวังและผลตอบแทนจากการลงทุนของพวกเขาต่ำลง เพราะการมองข้ามและพยายามทำทุกอย่างด้วยตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับ SEO เจ้าของธุรกิจจำนวนมากไม่เห็นความสำคัญของ SEO โดยเฉพาะธุรกิจท้องถิ่นหรือที่เรียกว่า Local Business ทั้งที่ความสำคัญนั้นมีอยู่มากมาย และการจ้างผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งจำเป็น

SEO เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและสิ่งที่ได้ผลในวันนี้อาจไม่ได้ผลในวันพรุ่งนี้ กลยุทธ์การจัดอันดับเว็บไซต์ล่าสุด หรือวิธีชนะการอัปเดตล่าสุดของ Google หรืออัลกอริทึมการค้นหาของ Bing เว็บไซต์ไหนที่จัดการ SEO ที่ทำมาไม่ดีอาจเป็นอันตรายมากกว่าจะเป็นการช่วยให้อันดันดีขึ้น ความพยายามที่ผิดพลาดของคนที่ไม่มี ความรู้จริงเป็นอันรายต่อเครื่องมือค้นหาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Google ซึ่งเป็นที่รู้จักในการลงโทษเว็บไซต์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องผลการค้นหาหรือใช้กลยุทธ์สแปมที่ออกแบบมาเพื่อจัดการเว็บไซต์ที่ผิดกฎ

ลงมือทำอันดับเว็บ ด้วยตัวเอง

การเลือกเส้นทางแบบ DIY หรือการทำ SEO ด้วยตัวเอง

มันช่วยให้คุณมีทักษะที่ดีก็จริง แต่ต้องไม่ลืมว่า สิ่งที่ทำในวันนี้มันอาจใช้ไม่ได้ในวันพรุ่งนี้ นั่นหมายถึงคุณต้องใช้เวลาเรียนรู้เกมการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์มากกว่าการทำธุรกิจของตัวเองอยู่เรื่อยๆ เพื่อรับกลยุทธ์ใหม่ๆที่มาพร้อมกับการจัดอันดับเว็บไซต์หรือวิธีการเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ ทั้งที่ความจริงควรต้องมุ่งเน้นธุรกิจคือการพัฒนาสินค้าหรือบริการของตัวเองเป็นอันดับแรก ไม่ใช่เรื่องอื่น การมองข้ามการทำ SEO เพื่อธุรกิจเพราะคิดว่าเป็นเพียงธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดกลางเท่านั้น และมีลูกค้าประจำอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องนี้ แต่ความจริงแล้วนี่คือยุคที่ทุกธุรกิจจะต้องแข่งขันกันอย่างดุเดือด มันไม่ใช่แค่การมีลูกค้าเก่าเท่านั้น แต่ยังต้องเพิ่มลูกค้าใหม่ด้วยเพื่อรักษาธุรกิจให้อยู่รอดได้

การจ้างงานหรือ Outsource เพื่อทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ของคุณนั้นเป็นการเพิ่มมุมมองจากคนภายนอก ที่ไม่ได้ถูกล้อมกรอบเอาไว้ด้วยแนวคิดหรือวิธีการทำงานใดๆ บางทีเขาจะมีมุมมองที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณได้มากกว่าที่เจ้าของธุรกิจจะนึกถึง และนี่คือประโยชน์ที่จะได้รับจากการที่จ้างงานจากคนภายนอก (Outsource) สำหรับการทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ที่เป็นธุรกิจในท้องถิ่นซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้ามแล้วปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ หากว่าคุณต้องการเอาชนะคู่แข่งที่อยู่รอบๆตัวให้ได้

แนวทาง SEO อื่นๆ

สร้าง traffic เพื่อนำพาคนมายังเว็บไซต์ของเรา

กระบวนการทำ seo จำเป็นจะต้องอาศัยหลากหลายปัจจัยร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อที่จะส่งผลทำให้เว็บไซต์ของเรามีประสิทธิภาพอย่างมากที่สุด และเป็นเว็บไซต์ที่ google ชื่นชอบ พร้อมทั้ง google มองว่าเป็นเว็บไซต์คุณภาพอย่างแท้จริง ส่งผลทำให้อันดับของเว็บไซต์ของเรานั้น เป็นไปในลักษณะที่ดียิ่งขึ้นไปกว่าเดิม เมื่อเราได้เน้นทำ seo ให้กับเว็บไซต์แบบครบถ้วน ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เว็บไซต์ของเราจะดูดีมีคุณภาพ พร้อมทั้งมีอันดับที่ดีขึ้นกว่าเก่า แต่การสร้าง traffic ก็นับได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะถ้าหากเว็บไซต์ของเราไม่มี traffic ก็นับได้ว่าไม่ใช่เว็บไซต์ที่ดีและมีคุณภาพ การโปรโมทและการสร้าง traffic จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ เพื่อที่จะนำพาคนมายังเว็บไซต์ของเราได้ในที่สุด ส่วนขั้นตอนในการสร้าง traffic มีดังนี้

คอยทำการแปะลิงค์โพสต์ไปที่ facebook แฟนเพจเป็นหลัก

ปกติแล้วเป้าหมายของผู้ที่ทำ seo และคอยแชร์ลิงค์บทความภายในเว็บไซต์ของตัวเอง เพื่อส่งตรงไปยัง facebook ก็เพื่ออยากจะให้คนเห็นมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมีความหวังว่าอยากจะให้คนคลิกอ่านบทความที่เราได้แชร์ไป นับได้ว่าเป็นหนทางในการสร้างทราฟฟิคส่งตรงกลับมายังเว็บไซต์ แต่ดูเหมือนว่าสิ่งแรกที่จะทำให้คนสะดุดตากับบทความของเรา นั่นก็คือ รูปภาพ ซึ่งภาพหน้าปกจะต้องสวยมากพอที่จะทำให้คนสนใจ โดยที่เราจะต้องทำการตั้งค่ารูปภาพหน้าปกให้มีการแสดงผลในรูปแบบที่ถูกต้องและเหมาะสมบน facebook ด้วยนั่นเอง สำหรับขนาดหรือไซต์รูปภาพที่ facebook ต้องการหรือได้แนะนำมา นั่นก็คือ รูปภาพจะต้องมีขนาด 1200 x 628 พิกเซล ซึ่งเราสามารถเข้าไปดูกฎการแสดงรูปภาพจาก facebook เพื่อศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป

การแปะลิงค์เพื่อโพสต์ไปยัง facebook group โดยตรง

ปกติแล้วทุกธุรกิจ ทุกวงการมักจะต้องมีเฟสบุ๊คกรุ๊ปหรือกลุ่มเฟสบุ๊คโดยตรง ซึ่งถ้าหากเราขอร่วมกลุ่มภายใน facebook ที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรา หรือแม้กระทั่งสินค้าของเราโดยตรง โดยที่เราห้ามโพสต์แบบที่ไม่ดูกฎหรือโพสต์แบบตามใจบนกลุ่มนั้น ๆ อย่างเด็ดขาด แต่สิ่งที่เราจะต้องทำนั่นก็คือ คอยสังเกตดูว่าคนในกลุ่มพบเจอปัญหาอะไรเป็นหลัก และให้เราพยายามนำเสนอบทความที่ช่วยในการตอบปัญหาของสมาชิกของกลุ่มทดแทน ซึ่งในขณะนี้เราจะต้องรอจังหวะเพื่อให้คนเข้ามาถามก่อน แล้วค่อยคิดบทความ ทำบทความ และแปะลิงค์ของเราลงไป หากทำแบบนี้จะส่งผลดีและเราจะไม่เสี่ยงถูกแบนจากกลุ่มอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ยังคงมีในส่วนของการลงโฆษณาบน facebook เพื่อที่จะโปรโมทโพสต์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นวิธีสร้างทราฟฟิคแบบที่ต้องใช้เงิน แต่สำหรับ 3 วิธีแรกไม่จำเป็นจะต้องใช้เงินแต่อย่างใด พร้อมทั้งอีกหนึ่งวิธีในการสร้างทราฟฟิคนั่นก็คือ การค้นหาเว็บไซต์หรือเพจที่เป็นพันธมิตรกับเรา เพื่อช่วยทำ backlink กลับมาสู่เว็บไซต์ของเราได้ในที่สุด

แนวทาง SEO อื่นๆ

ทำไมเราจึงควรจัดทำ โครงสร้างเว็บไซต์ให้ดี ให้เป็นระเบียบ

Website

การจัดทำโครงสร้างเว็บไซต์ให้ดี ให้เป็นระเบียบ เปรียบเสมือนว่าเรามีหน้าร้านขายสินค้าเหมือนกับร้านปกติโดยทั่วไป หากเราได้ทำการวางสินค้าเอาไว้เป็นหมวดหมู่ นอกจากร้านค้าจะดูสะอาด มีระบบ มีระเบียบ ในมุมมองของลูกค้าแล้ว ยังคงมองว่าร้านค้าร้านนี้น่าเลือกซื้อสินค้า และเมื่อลูกค้าได้เข้ามาสู่ร้านค้าของเรา ลูกค้าจะสามารถหยิบซื้อสินค้าได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และนี่ก็คือเหตุผลที่ผู้จัดทำเว็บไซต์ส่วนใหญ่ ควรจัดทำโครงสร้างหน้าเว็บไซต์ให้เป็นระเบียบ เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณมีคุณภาพ และน่าเข้ามาเชยชมได้มากยิ่งขึ้น ตลอดจนกระทั่งเป็นตัวช่วยที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณนั้น มีอันดับที่ดีขึ้นได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังคงส่งผลทำให้ผู้ที่เข้ามาชมเว็บไซต์ของเราได้ประโยชน์มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

1.ผู้ใช้งานเว็บไซต์ของเรา จะสามารถได้รับข้อมูลอย่างเต็มที่ และได้รับความสะดวกสบาย

การที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของเรา และได้ค้นพบกับข้อมูลที่ผู้ใช้งานต้องการจะค้นหา ย่อมส่งผลทำให้ผู้ใช้งานเว็บไซต์ของเรานั้น รู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าหากเราได้จัดโครงสร้างเว็บไซต์ไว้เป็นระบบ เป็นระเบียบ ผู้ใช้งานจะยิ่งสามารถรับข้อมูลจากเราได้มากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม อีกทั้งพวกเขายังคงได้รับความสะดวกสบาย จนกระทั่งอยากจะใช้งานเว็บไซต์เราเป็นระยะเวลานาน ๆ ซึ่งในส่วนของปริมาณเวลาที่ทางด้านผู้ใช้งานได้ใช้งานเว็บไซต์ของเรานั้น ถือได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะส่งผลทำให้ google เลือกจัดอันดับเว็บไซต์ของเราได้ดียิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นแล้ว ยิ่งถ้าหากเว็บไซต์ของเรามีค่า Dwell Time สูงมากขึ้นเท่าไหร่ จะยิ่งแสดงให้เห็นว่าเว็บไซต์ของเรานั้นมีคุณภาพในสายตาของ google มากขึ้นเท่านั้นนั่นเอง

2.เมื่อเว็บไซต์เป็นระเบียบ google bot จะสามารถเก็บข้อมูลได้ง่ายยิ่งขึ้น

อีกหนึ่งกรณีที่ส่งผลดี เมื่อเราได้ทำการจัดโครงสร้างเว็บไซต์ออกมาเป็นระบบระเบียบ นั่นก็คือ google bot จะสามารถเก็บข้อมูลในแต่ละหน้าเว็บเพจของเราได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังคงมีความเข้าใจเกี่ยวกับภาพรวมของเว็บไซต์ของเราได้ดีกว่าเดิม หากเราไม่มีโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดีมากพอ google bot ก็จะไม่สามารถเก็บข้อมูลภายในเว็บของเราได้อย่างทั่วถึงนั่นเอง และนี่ก็คือเหตุผลที่จะแสดงให้ทุกท่านได้เห็นแล้วว่า เหตุใดเราจึงควรให้ความสนใจไปกับการจัดโครงสร้างเว็บไซต์ให้ดี เป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น เมื่อเว็บไซต์ของเรามีคุณภาพในทุก ๆ ด้าน รวมไปถึงโครงสร้างที่ถูกจัดแสดงเอาไว้เป็นอย่างดี เรียบร้อยแล้ว จะยิ่งส่งผลทำให้คุณภาพภายในเว็บไซต์ของเรานั้น มีมากจนเป็นที่จับตามอง และส่งผลดีต่ออันดับที่เว็บไซต์ของเราจะได้รับอย่างแน่นอน

แนวทาง SEO อื่นๆ

เว็บหนังกับเว็บแนวเนื้อหา อันไหนทำ SEO ง่ายกว่ากัน

SEO Movie and Content

เมื่อมีคำถามนี้เกิดขึ้น ก็ต้องถามย้อนกลับไปว่าในกรณีของเป็นเว็บหนังนั้น เป็นหนังเกี่ยวกับอะไรและในกรณีของเป็นเว็บเกี่ยวกับบทความ ตัวบทความนั้นจะเป็นเรื่องราวของอะไร ประเด็นไม่ใช่อยู่ที่การทำเว็บหนังหรือการทำเว็บบทความ แบบไหนจะทำอันดับได้ดีกว่ากัน แต่ประเด็นจะอยู่ที่ปริมาณการค้นหาในคีย์เวิร์ดย่อยของกลุ่มเว็บไซต์ที่เราจะต้องการทำมากกว่า ยกตัวอย่างเช่นกรณีที่เราทำเว็บไซต์เกี่ยวกับคลิปวิดีโอ ตัดเป็นคลิปตลก คลิปสัตว์เลี้ยงทั่วไป กลุ่มนี้จะไม่ค่อยมีนิชคีย์มากมายสักเท่าไหร่ คนส่วนมากที่นิยมเข้ากันก็จะเน้นคีย์เวิร์ดหลักในการค้นหา การทำอันดับจึงเป็นเรื่องยากอยู่พอสมควร

ส่วนถ้าทำเป็นเว็บไซต์แนวดูหนังผู้ใหญ่ อาจจะสามารถทำอันดับได้ง่ายกว่าในกรณีเรียก Traffic เข้าเว็บไซด์ ตลาดนี้มีนิชคีย์แปลกแปลกพิสดารที่แล้วแต่คนจะทำการค้นหาเข้ามาเว็บไซต์เหล่านี้เยอะพอดู สามารถโตได้รวดเร็วกว่า แต่เมื่อต้องเทียบกับคู่แข่งในรูปแบบเว็บเดียวกันก็ต้องไปวัดกึ๋นกันในส่วนของ SEO Onpage กันอีกทีหนึ่ง ต่อมา ในกรณีของเว็บไซต์ที่เป็นเกี่ยวกับบทความ หากว่าเป็นบทความเกี่ยวกับสุขภาพ เคล็ดลับต่างๆ ปริมาณการค้นหานั้นอาจจะมีอยู่บ้างในระดับปานกลาง และมีนิชคีย์เยอะอยู่พอสมควร แต่ตลาดนี้คู่แข่งค่อนข้างเยอะ การกระทำคำค้นหาย่อยให้ติดอันดับในตลาดเหล่านี้ จึงเป็นเรื่องค่อนข้างลำบากกว่าตลาดอื่นๆ

ต้องดูคู่แข่งกันอีกทอดด้วย

แต่หากว่าเราทำเป็นเว็บรีวิวหนังแต่เป็นแนวคอนเทนท์ เป็นบทความเยอะเยอะ หรือจะเป็นบทความเทคนิคเกี่ยวกับพวกโปรแกรมซอฟท์แวร์ต่างๆพวกนี้ ถึงแม้ว่าจะมีเว็บไซต์ให้ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์เถื่อนค่อนข้างเยอะ แต่น้อยเว็บเพจจะมีเนื้อหาบทความสอนวิธีการใช้งาน และที่สำคัญกลุ่มนี้ก็มีคำค้นหาย่อยเยอะอยู่ด้วย จึงสามารถหาคนเข้าเว็บได้ไวมากกว่าการทำ SEO ในตลาดเครื่องสำอางหรืออาหารเสริม สรุปใจความก็คือ ในกรณีที่เป็นเว็บไซต์หนังหรือบทความนั้น ให้เรายึดที่ปริมาณคำค้นหาหมวดย่อยและคู่แข่งเป็นหลักว่ามีมากหรือน้อย ยิ่งมีคำค้นหาย่อยเยอะ และมีปริมาณการแข่งขันต่ำ โอกาสหาทราฟฟิคเข้าเว็บไซต์ได้รวดเร็วจะมีสูงพอสมควร

แนวทาง SEO อื่นๆ

SEO แบบ On-Page ตัวช่วยสร้างอันดับเว็บไซต์

On Page SEO

การทำ SEOแบบ On-Page หลักสำคัญที่ต้องเรียนรู้นั่นก็คือ เนื้อหาของเว็บไซต์ที่ลงไป จะต้องทำแบบมีความรู้และมีหลักการ เพราะส่วนนี้เป็นส่วนที่สำคัญต่อการทำอันดับใน Search engine โดยเนื้อหาหลักที่ต้องเข้าใจเป็นพิเศษ มีดังนี้

1. Keyword

การคิดคีย์เวิร์ด ถือเป็นจุดสำคัญของการทำ SEO การเลือก Keyword ที่มีคุณภาพ ทำให้เว็บไซต์น่าสนใจ น่าค้นหา และสามารถนำคนเข้ามายังเว็บไซต์ของเราได้ง่าย ในการเลือกคีย์เวิร์ดมีตัวช่วยในเครื่องมือของ Google อยู่แล้ว เพียงแต่เราต้องนำมาคิดเพิ่มว่า เราจะเสริมคีย์เวิร์ดเหล่านั้นให้มีคุณภาพและน่าสนใจได้อย่างไร โดยมองในรูปแบบของคนที่เข้ามาค้นหาข้อมูล ส่วนมากจะมาในรูปแบบคำถาม ต้องการความรู้ เราก็นำมาปรับให้เข้ากับคีย์เวิร์ดเว็บของเราเช่น คีย์เวิร์ดที่เราต้องการคือ ขายของเล่น เราก็อาจจะปรับแต่งเป็น ของเล่นสุดฮิตในปี 2017 เพื่อให้คนสนใจเข้าชมเว็บ และได้เห็นสินค้าในเว็บไปในตัวด้วย

2. มองจุดสำคัญของเว็บให้ขาด

จุดสำคัญในการทำ SEO ของเว็บ ที่ Google สนใจ มีอยู่ 5 จุดสำคัญ ดังนี้
– Title ควรตั้งให้ดูน่าสนใจ น่าค้นหา และทำให้คนอยากอ่านต่อไปถึงเนื้อหา
– URL ชื่อลิงค์ของบทความ ควรตั้งให้เข้ากันกับเว็บ ควรมีคีย์เวิร์ดอยู่ในลิงค์ เพราะ Google จะสามารถเก็บค่าจาก URL ได้
– Description ช่วยให้คนเข้าใจตัวบทความของเว็บมากขึ้น ต้องมีความกระชับ แต่เนื้อหาต้องครบ
– Heading ของบทความ ควรมีการทำตัวหนาบ้าง เพื่อเน้นคำ และสร้างมิติให้บทความ ซึ่ง Google เอง ก็มองว่าส่วนของหัวข้อ คือตัวหลักของบทความ และเก็บนำไปเป็นข้อมูลในการจัดอันดับเว็บด้วย
– ชื่อภาพ เป็นอีกจุดที่นักออกแบบเว็บไม่ค่อยสนใจ แต่หากมองในมุม Bot ของ Google แล้ว ค่อนข้างที่จะมีความเชื่อมโยงกัน การตั้งชื่อภาพ และใส่รายละเอียดโค้ดตรง Alt ช่วยให้Google มองเห็นชื่อภาพเป็นสิ่งที่นำไปทำอันดับได้

3. ไม่ควรใส่คีย์เวิร์ดมากไป

แม้การใส่คีย์เวิร์ด จะสำคัญต่อการทำ SEO แต่การหว่านคีย์เวิร์ดมากไปในบทความ ทำให้ Google มองว่าเราตั้งใจมากเกินไป บางครั้งอาจทำให้มองได้ว่าบทความของเราจัดอยู่ในกลุ่มสแปม อาจทำให้ถูกแบนจากระบบได้ การใส่คีย์เวิร์ดจึงควรกระจายให้ทั่วทั้งบทความ และมีจำนวนไม่มากเกินไป เช่น บทความ 100 คำ ควรมีคีย์เวิร์ดประมาณ 2 คำก็เพียงพอ

การทำ SEO แบบ On-page ไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่ใช่เรื่องที่ยาก แต่จะต้องมีความรอบคอบในการทำ และใส่ใจกับการเขียน เพราะการทำ SEO แบบนี้ ถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญมากในการทำอันดับ และสามารถวัดผลได้เลยว่า SEO ที่คุณทำมีคุณภาพหรือไม่ นักทำ SEO ทั้งมือเก่าและมือใหม่ ไม่ควรมองข้าม