Browse Tag by บทความ SEO
SEO ทั่วไป

เผยกลยุทธ์ seo ให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกบน Google

เผยกลยุทธ์ให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกบน Google

SEO หรือ Search Engine Optimization คือแนวทางปฏิบัติในการปรับปรุงการแสดงผลเว็บไซต์ของคุณในเครื่องมือค้นหาเช่น Google โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการเข้าชมทั่วไป (ผู้เข้าชมที่ค้นหาเว็บไซต์ของคุณผ่านผลการค้นหาที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย) ยิ่งเว็บไซต์ของคุณมีอันดับสูงสำหรับคำสำคัญที่เกี่ยวข้อง ผู้คนก็จะค้นพบและคลิกคำนั้นมากขึ้น

กลยุทธ์สำคัญในการทำให้เว็บไซต์ของคุณติดหน้าแรกของ Google

1.การเพิ่มประสิทธิภาพในหน้า

-เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง: สร้างเนื้อหาคุณภาพสูง ให้ข้อมูล และน่าสนใจที่ตอบสนองความต้องการและจุดประสงค์ในการค้นหาของกลุ่มเป้าหมายของคุณโดยตรง

-การวิจัยคำหลัก: ระบุคำหลักที่เกี่ยวข้องที่ผู้คนกำลังค้นหาและใช้คำหลักเหล่านั้นอย่างเป็นธรรมชาติตลอดทั้งเนื้อหาของคุณ แต่หลีกเลี่ยงการใช้คำหลักในทางที่ผิด

-แท็กชื่อและคำอธิบายเมตา: สร้างชื่อและคำอธิบายเมตาที่น่าสนใจซึ่งสะท้อนถึงเนื้อหาของคุณอย่างถูกต้องและกระตุ้นให้เกิดการคลิก

-หัวเรื่องและหัวเรื่องย่อย: ใช้หัวเรื่องและหัวเรื่องย่อยที่ชัดเจนเพื่อจัดโครงสร้างเนื้อหาของคุณและปรับปรุงความสามารถในการอ่าน

-การเชื่อมโยงภายใน: เชื่อมโยงไปยังหน้าที่เกี่ยวข้องบนเว็บไซต์ของคุณเพื่อช่วยผู้ใช้นำทางและปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์

-การเพิ่มประสิทธิภาพรูปภาพ: ใช้ชื่อไฟล์ที่สื่อความหมายและข้อความแสดงแทนสำหรับรูปภาพเพื่อปรับปรุงการเข้าถึงและความเกี่ยวข้อง

-ความเหมาะกับมือถือ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณดูและทำงานได้อย่างไร้ที่ติบนอุปกรณ์ทุกชนิด โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ

-ความเร็วหน้า: ปรับความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ของคุณให้เหมาะสมเพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นและเพิ่มศักยภาพ SEO

2.เทคนิค SEO

-โครงสร้างเว็บไซต์: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณมีโครงสร้างที่ชัดเจนและสมเหตุสมผลสำหรับทั้งผู้ใช้และเครื่องมือค้นหา

-Robots.txt และแผนผังไซต์: สร้างและส่งไฟล์ robots.txt เพื่อเป็นแนวทางให้เครื่องมือค้นหาและแผนผังไซต์เพื่อช่วยจัดทำดัชนีหน้าเว็บของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ

-ข้อมูลที่มีโครงสร้าง: ใช้มาร์กอัปข้อมูลที่มีโครงสร้างเพื่อให้เครื่องมือค้นหามีบริบทเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาของคุณ

3.การเพิ่มประสิทธิภาพนอกหน้า

-ลิงก์ย้อนกลับ: รับลิงก์ย้อนกลับคุณภาพสูงจากเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ ในช่องของคุณ ระวังกลยุทธ์ SEO หมวกดำที่อาจเป็นอันตรายต่อเว็บไซต์ของคุณ

-SEO ท้องถิ่น: หากคุณมีธุรกิจในท้องถิ่น ให้อ้างสิทธิ์และเพิ่มประสิทธิภาพรายชื่อ Google My Business ของคุณ

-การมีส่วนร่วมกับโซเชียลมีเดีย: โปรโมตเนื้อหาเว็บไซต์ของคุณบนโซเชียลมีเดียเพื่อสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์และอาจดึงดูดผู้เยี่ยมชม

4.ปัจจัยเพิ่มเติม

ประสบการณ์ผู้ใช้: จัดลำดับความสำคัญในการสร้างประสบการณ์ผู้ใช้เชิงบวก เนื่องจาก Google พิจารณาว่าเป็นปัจจัยในการจัดอันดับ

-ความใหม่ของเนื้อหา: อัปเดตเว็บไซต์ของคุณเป็นประจำด้วยเนื้อหาที่สดใหม่และเกี่ยวข้องเพื่อรักษาความสนใจของเครื่องมือค้นหา

-การวิเคราะห์และการติดตาม: ตรวจสอบประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณโดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์เพื่อระบุพื้นที่ที่ต้องปรับปรุงและติดตามความคืบหน้าของคุณ

SEO เป็นกระบวนการต่อเนื่อง และผลลัพธ์ต้องใช้เวลาและความพยายาม ติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับแนวโน้ม SEO และแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด และอดทนรอ! นอกจากนี้ คุณยังควรพิจารณาคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ SEO เพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติมและกลยุทธ์ที่ปรับให้เหมาะกับเว็บไซต์เฉพาะของคุณ

SEO ทั่วไป, แนวทาง SEO อื่นๆ

ธุรกิจได้อะไรจากการเลือกทำ SEO ให้ถูกหลัก

ธุรกิจได้อะไรจากการเลือกทำ SEO ให้ถูกหลัก

ยุคนี้การทำธุรกิจหรือการขายสินค้าไม่ใช่แค่มีหน้าร้านแล้วจะช่วยให้ได้รับความนิยมอีกต่อไป ด้วยโลกออนไลน์ที่พัฒนาแบบก้าวกระโดด ทุกธุรกิจจึงจำเป็นต้องหันมาหาวิธีในการนำเสนอผ่านช่องทางนี้กันมากขึ้นเรื่อย ๆ บทความ SEO จึงถือเป็นอีกเทคนิคดี ๆ ที่จะช่วยทำให้คุณได้ประโยชน์กลับไปอย่างเต็มที่และคุ้มค่ามากที่สุด บางหน่วยงานยังคิดว่าการทำ SEO ไม่เห็นสำคัญเลยเพราะยังไงถ้าลูกค้าค้นหาก็ต้องเจอเว็บของเราบ้างแน่ ๆ แต่อย่าลืมว่าหากลูกค้าค้นเจอเว็บอื่นก่อน นั่นก็เท่ากับคุณขาดโอกาสทันที และนี่คือสิ่งที่ธุรกิจจะได้รับเมื่อตัดสินใจเลือกทำ SEO อย่างถูกหลัก

สิ่งที่จะได้จากการทำ SEO อย่างถูกหลัก

เพิ่มการเข้าชมของหน้าเว็บไซต์ให้มากขึ้น

เมื่อธุรกิจมีการโฆษณาด้วยช่องทางออนไลน์ การมีจำนวนคนที่เข้าถึงเว็บไซต์คุณได้มากเท่าไหร่ยิ่งเป็นผลดีในอนาคตมากขึ้น อย่างน้อย ๆ ถึงแม้ยังไม่ได้ซื้อตอนนี้แต่ก็มีสิทธิ์เก็บเอาไว้เป็นตัวเลือก หรือแนะนำคนที่กำลังอยากได้สินค้าประเภทนี้ให้เข้ามาเยี่ยมชมนั่นเอง

ได้รับความน่าเชื่อถือและกลายเป็นที่รู้จัก

แม้ว่ากลุ่มเป้าหมายที่เข้ามายังไม่ได้การันตีว่าทุกคนจะเป็นลูกค้าทุกราย แต่ถ้ามีคนเข้าเยอะเท่าไหร่นั่นหมายถึงกลายเป็นการสร้างความรู้จัก ความคุ้นชินให้กับคนที่เข้ามาได้เป็นอย่างดี เกิดความน่าเชื่อถือและน่าจดจำ ทำนองว่าถ้าคิดอยากซื้อสินค้าหรือบริการ ธุรกิจของคุณจะได้รับการนึกถึงเป็นลำดับต้น ๆ

ยอดขายพุ่งขึ้นอย่างน่าชื่นชม

เป็นเรื่องปกติเมื่อลงทุนการโฆษณาประชาสัมพันธ์นำเสนอสิ่งดี ๆ ของธุรกิจไปแล้ว ผลตอบแทนที่ต้องการคือ ผลกำไรจากการซื้อของลูกค้า เท่ากับว่าการใช้ช่องทาง SEO แบบนี้โอกาสที่ยอดขายจะพุ่งสูงขึ้นจากจำนวนคนที่เข้ามาดูมากกว่าปกติ อย่างน้อย ๆ คนที่เข้ามา 100 คน จะมี 1-10 คน คงต้องเป็นลูกค้าในอนาคตแน่ ๆ

ลดต้นทุน ช่วยเซฟเงินได้มากขึ้น

การลงทุนทำ SEO ถือว่าช่วยลดต้นทุนในด้านการโฆษณาออกไปเยอะพอสมควร ใครที่คิดว่าอยากนำเงินทุนของธุรกิจไปทำกับอย่างอื่นเพื่อผลกำไรที่งอกเงยมากกว่านี้ SEO คือ ตัวช่วยที่ใคร ๆ ก็ต้องชอบ เพราะลงทุนนิดหน่อยก็มีโอกาสทำให้ลูกค้ารู้จัก แถมถ้าศึกษาวิธีทำให้ติดอันดับหน้าแรกเอาไว้บ่อย ๆ คราวนี้ก็ไม่ต้องลงโฆษณาอะไรมาก นำเงินทุนไปรวมกับการผลิต พัฒนาสินค้า การจัดการและพัฒนาด้านบุคลากรได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย

จะเห็นได้ชัดเจนว่าสมัยนี้ธุรกิจออนไลน์ทุกประเภทต้องใช้สื่อออนไลน์เป็นตัวช่วยในการสร้างช่องทางใหม่ ๆ สำหรับจัดจำหน่ายหรือเพื่อนำเสนอให้คนรู้จักมากขึ้น การนำเอาบทความ SEO เข้ามาช่วย จะทำให้เกิดยอดขายสูงขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งช่วยประหยัดงบประมาณโฆษณาไปได้มากทีเดียว

สิ่งที่จะได้จากการทำ SEO อย่างถูกหลัก

SEO ทั่วไป

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ keyword SEO

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ keyword SEO

การทำเว็บไซต์ให้ประสบความสำเร็จ มีผู้คนรู้จักและมียอดขายสินค้าที่มากขึ้น จำเป็นต้องรู้จักการเลือกใช้ keyword SEO ที่เหมาะสม ซึ่งกูรูการตลาดแนะนำว่าในเบื้องต้นสามารถหาได้จาก Google search ซึ่งจะมีคำขึ้นอัตโนมัติ ตรงกับการสืบค้นที่คนทั่วไปนิยม หรือดูที่ด้านล่างของหน้าจอจะมีคำว่า related to หมายถึงคำอื่นๆ ที่มีการสืบค้นเพิ่มเติมอีก ซึ่งก็มีนัยสำคัญทางสถิติที่สามารถนำมาใช้เพื่อการเขียนบทความ ทำหัวข้อ ออกแบบ meta-description ที่มีทำให้อันดับ SEO เพิ่มได้

นอกจากที่กล่าวมา การคิด keyword SEO ที่แหวกแนวจากแบบเดิม ๆ เพิ่มความดึงดูดใจผู้อ่าน ก็มีเทคนิคที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

1. คำที่หมายถึง ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร

keyword ที่ตอบโจทย์ทั้งสี่คำถามนี้ นับว่าเป็นพื้นฐานสำหรับการเขียนบทความที่น่าสนใจ หากคุณต้องการสร้างบทความ SEO ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่คุณจำหน่าย เช่น เสื้อผ้าเกาหลี หากคุณยังไม่รู้ว่าจะใช้คำว่าอย่างไร ให้นึกถึงคำว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เพื่อสร้างบทความที่จูงใจได้ สำหรับสินค้ากลุ่มเสื้อผ้าเกาหลีอาจจะทำบทความที่ว่า “แฟชั่นเสื้อผ้าเกาหลี..คนรุ่นใหม่อยากไปเที่ยวช่วงฤดูหนาว แต่งตัวอย่างไรดี 2019” เพียงเท่านี้ ก็จะได้แนวทางการเขียนบทความ และทำให้คุณจับประเด็นในการหาภาพประกอบที่เหมาะสม เพื่อจูงใจผู้อ่านให้มาสนใจบทความมากขึ้นได้

2. มองหาปัญหาของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย

หากคุณทำผลิตภัณฑ์เพื่อการบำรุงผิวหรือแก้ปัญหาสุขภาพเส้นผมแห้งเสีย ต้องมองว่าลูกค้าที่ต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เป็นผู้ที่ประสบปัญหาใดบ้าง เช่น ปัญหาผิวพรรณ ได้แก่ ผิวหมองคล้ำ เป็นสิว ฝ้า ผิวแห้ง ผิวมัน หน้าเยิ้มมันง่ายเมื่อแต่งหน้า หรือปัญหาผมเสียจากปัญหาการเปลี่ยนสีผมบ่อย หนังศีรษะเป็นรังแค เส้นผมแห้งแตกปลายแต่หนังศีรษะมัน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ คือวัตถุประสงค์ที่ลูกค้าจะหาบทความอ่านเพื่อที่จะเสริมความรู้ และมองหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ปัญหาเหล่านี้ด้วย หากมีการแนะนำสินค้าต่อเนื่องจากการให้ความรู้ จะทำให้ยอดขายดีขึ้นได้มากทีเดียว

3. ใส่ใจทุกแพลตฟอร์ม

หลายคนมีทั้งเว็บไซต์ที่สืบค้นได้ผ่าน Google และเพจใน Facebook เพื่อการเข้าถึงลูกค้า โดยเฉพาะคนไทยที่นิยมใช้ Facebook เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ต้องอย่าลืมใส่ keyword SEO ลงไปในทั้ง 2 แหล่ง และสร้างลิงก์เชื่อมโยงกันซึ่งนับว่าเป็น off- Page SEO ที่เพิ่มอันดับในการสืบค้นของธุรกิจของคุณบนโลกออนไลน์ได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วย

เราหวังว่าบทความนี้ จะช่วยให้เห็นประโยชน์ของการเลือก keyword SEO ที่ดี ซึ่งการันตีได้ว่าหากทำอย่างต่อเนื่องและผลิตเนื้อหาบทความให้มีความทันสมัยอยู่เสมอแล้ว ก็จะทำให้สินค้าของคุณมียอดขายที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

การคิด keyword SEO ที่แหวกแนวจากแบบเดิม

แนวทาง SEO อื่นๆ

Content SEO กับ 5 สิ่งที่ห้ามขาดโดยเด็ดขาด เพื่อทำอันดับให้ยั่งยืน

5 สิ่งห้ามขาดใน Content

การทำ SEO เป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับวงการธุรกิจออนไลน์ในปี 2018 เนื่องจากการค้นหาคำด้วยคีย์เวิร์ดต่างๆ ของเครื่องมือมหัศจรรย์อย่าง search engine จำเป็นต้องอิงตามหลักการ SEO ซึ่งหนึ่งในงานหน้าบ้านของเว็บไซต์ ก็คือการเขียนบทความ หรือ content ที่จำเป็นต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ของนักเขียน หรือ content writer ในการทำ SEO เราจึงได้รวบรวม 5 เทคนิคที่กูรูนักเขียนแนว SEO ได้แนะนำไว้ หากต้องการให้เว็บไซต์ยุค 2018 ติดอันดับยอดนิยมในการค้นหา

1. ต้องหาคีย์เวิร์ดที่ใช่ จำเป็นมากที่ต้องรู้ว่าการสืบค้นธุรกิจแนวที่ทำอยู่ของกลุ่มลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย ใช้คีย์ว่าอะไร เช่น

– website ร้านจัดดอกไม้ ควรมีคีย์เวิร์ด จัดช่อดอกไม้ รับปริญญา วาเลนไทน์ ราคาถูก เป็นต้น
– webpage วิตามินและอาหารเสริม ควรมีคีย์เวิร์ด ว่า วิตามิน สุขภาพ อาหารเสริม ความงาม เป็นต้น

2. สำหรับการมอบหมายงานให้นักเขียน content หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ online มือใหม่ ที่ยังไม่แน่ใจว่ากลุ่มคนเป้าหมายที่ต้องการสื่อสาร หรือมีโอกาสขายสินค้าและบริการได้มากที่สุด มักสืบค้นด้วยคำใด ก็สามารถใช้บริการของ program ขั้นเทพ อย่าง keysearch ได้ แต่ทั้งนี้ก็อาจมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันไปตามการลงทะเบียนใช้งานด้วย

เนื้อหา เป็นปัจจัยสำคัญต่อเว็บ

3. การกำหนดตำแหน่งเพื่อให้เป็น บทความ SEO ควรเน้นที่การกระจายคีย์เวิร์ดในจุดต่างๆ ขององค์ประกอบบทความ ได้แก่

(1) ส่วนหัว หรือ ชื่อของบทความ (title)
(2) ส่วนที่อยู่ หรือ URL address ซึ่งต้องมีคีย์เวิร์ดสำคัญอยู่ในนั้นเสมอ และไม่ควรตั้งเป็นภาษาไทยเพราะจะเกิดปัญหาในการสืบค้น หรือเกิด ERROR ได้
(3) ส่วนเนื้อหาโดยภาพรวม หรือ Description หรือบางกรณีเป็นการนำบทย่อหน้าแรกมาลง ทั้งนี้อาจใช้โปรแกรม WordPress ช่วยย่นระยะเวลาในการทำ SEO ปลั้กอินได้

4. ในบทความหนึ่งๆ นอกจากตัวอักษรที่ต้องมีความเหมาะสมในการจัดรูปแบบวางคำและความยาวที่เหมาะสมสำหรับกลุ่มผู้อ่านแล้ว ยังต้องมีการเพิ่มรูปภาพที่เกี่ยวข้องกับบทความ หรือช่วยส่งเสริมการขายได้ ซึ่งแน่นอนว่าจำเป็นต้องมีการตั้งชื่อรูปภาพประกอบเหล่านั้นด้วย การทำ SEO ในส่วนนี้ คือการนำคีย์เวิร์ดที่เหมาะมาเป็นชื่อของภาพนั่นเอง

5. การใช้คำกระตุ้นความน่าอ่าน เป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจอยู่เสมอ หัวข้อบทความจึงไม่ควรยาวเกินไป เพราะต้องการใส่ keyword หลายคำ ควรใช้เทคนิค “น้อยแต่มาก” หรือ minimalist คือถ้อยคำสั้นๆ แต่โดนใจ เช่น ห้ามพลาด ขาดไม่ได้ สิ่งจำเป็น ดีกว่าที่จะใช้ถ้อยคำเป็นเชิงบรรยายซึ่งทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าน่าเบื่อ และทำให้ลดเปอร์เซ็นต์จำนวนผู้ที่จะคลิกเข้ามาอ่านบทความไปด้วย

จะเห็นได้ว่า การทำ SEO กับบทความด้วย 5 เทคนิคที่กล่าวมา เป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝนและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ การจ้างงานเขียนบทความ SEO จึงควรใส่ใจเลือกคุณภาพงานเขียนมากกว่าปริมาณหรือราคา